ข่าวสารและกิจกรรม
ในสื่ออื่นๆ

สรุปสาระสำคัญ จากงาน i-forum ผู้นำการปฏิวัติ 4ir ถอดบทเรียนสำคัญจาก WEF Global lighthouse Network เวทีแลกเปลี่ยนความรู้ระดับแนวหน้

คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ Engineering KU

เวทีแลกเปลี่ยนความรู้ระดับแนวหน้า ที่รวมผู้นำองค์กรจากภาคการผลิตและเทคโนโลยี ร่วมแบ่งปันประสบการณ์และมุมมองการปรับตัวเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0

Key Takeaways จากเวทีนี้: ดร. ไสว เชื้อสาวะถี Vice President & Managing Director, HDD Operations, Prachinburi บริษัท Western Digital Storage Technologies (Thailand) "เรามีความตระหนักว่างานทุกงาน Machineไม่ได้ทำให้เราได้ทั้งหมด นั่นคือสิ่งที่เราต้องการสร้างองค์กรให้ คนและ Machine ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด"
คุณณชา เกื้อกูลเกียรติ Director, Manufacturing Business Unit of Kenvue Thailand บริษัท Kenvue Thailand "เทคโนโลยี Digital หรือ Automation หรือ Robot มันเป็นแค่ส่วนประกอบ แต่ถ้าเราไม่มีปลายทางที่ชัดเจน เราไม่รู้ว่าเราต้องการอะไร เราไม่รู้จะใช้อะไร"

คุณธนภัทร เตชะแสนสิริ Solution Sales Manager, Delta Electronics (Thailand) PCL. "หัวใจคือคนไม่ใช่เครื่องจักร Start with Why? ไม่ใช่ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมที่ใครใช้ IOT ก่อนหรือใครใช้ Ai ก่อนคนนั้นชนะ แต่ว่าคนที่ตั้งคำถามได้ถูกจุดที่สุด เราจะเพิ่มประสิทธิภาพยังไง เราจะลดของเสียยังไง ทุกอย่างเริ่มจากการตั้งคำถาม"

คุณท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัท Bitkub Capital Group Holdings Co., Ltd. "เราต้อง Differentiate ให้ได้ก่อนว่า End results ของ AI คืออะไร มันให้ Marginal Cost of Computing เท่ากับศูนย์ Blockchain มันให้ Digital Scarcity 3D printing มันให้ Marginal cost of production เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญกว่านั่นคือเราต้องมี Human Capital ที่เข้าใจก่อนว่าแต่ละคาถามันคืออะไร และเราจะใช้คาถานี้ในเหตุการณ์แบบไหน"
(Marginal Cost of Computing คือ ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการใช้การประมวลผลเพิ่มเติมอีกหนึ่งหน่วย)

รศ. ดร. เชาวลิต มิตรสันติสุข ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ " งานสัมนา i-forum นี้นะครับ จะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่เข้มแข็ง ระหว่างภาคมหาวิทยาลัยและหน่วยงานอื่นๆ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทย ทั้งในด้านเทคโนโลยี และทรัพยากรมนุษย์ และมาตรฐานการผลิตให้ทัดเทียมระดับสากล"

21 พ.ค. 2568

เดลต้า สร้างมาตรฐานใหม่ระดับโลก ด้วยพาวเวอร์ซัพพลายเซิร์ฟเวอร์ ขนาด 5,500 วัตต์

บลูชิพ online

กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 8 พฤษภาคม 2568 – บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำระดับโลกด้านการจัดการพลังงานและผู้ให้บริการโซลูชันสีเขียวอัจฉริยะ ได้ประกาศความสำเร็จของพาวเวอร์ซัพพลายเซิร์ฟเวอร์แบบสำรองขนาด 5,500 วัตต์ระดับไฮเอนด์ ซึ่งผลิตในประเทศไทย ได้รับการรับรอง 80 PLUS® Ruby เป็นรายแรกของโลก

นายวิคเตอร์ เจิ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของทั้งเดลต้าและประเทศไทย การที่เทคโนโลยีของเราได้รับการรับรองมาตรฐาน 80 PLUS® Ruby เป็นรายแรกของโลก ตอกย้ำถึงบทบาทของเราในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมพาวเวอร์ซัพพลายที่มีประสิทธิภาพสูง อีกทั้งยังสะท้อนบทบาทสำคัญของประเทศไทยในการส่งมอบเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและยั่งยืนสู่ตลาดโลก การได้รับการรับรองมาตรฐานระดับ Ruby ไมใช่เพียงความสำเร็จเชิงเทคนิคเท่านั้น แต่ยังเป็นการกำหนดมาตรฐานใหม่ที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของโลกดิจิทัลอย่างมีความรับผิดชอบ ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเดลต้าในด้านประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และความยั่งยืน นอกจากนี้ เรายังมีความภาคภูมิใจที่นวัตกรรมทั้งหมดล้วนถูกผลิตในประเทศไทย”

เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน Ruby พาวเวอร์ซัพพลายต้องมีประสิทธิภาพไม่ต่ำกว่า 96.5% ที่โหลด 50% และรักษาค่าตัวประกอบกำลังไฟฟ้า (PF) ให้ไม่น้อยกว่า 0.96 โดยพาวเวอร์ซัพพลายของเดลต้ามีคุณสมบัติเหนือกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ด้วยประสิทธิภาพสูงสุดที่ 97.5%* และมีค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์ที่ 0.99 ภายใต้โหลดเต็มพิกัด โดยเดลต้าได้อาศัยความเชี่ยวชาญขั้นสูงในเทคโนโลยีซอฟต์สวิตชิ่ง (soft-switching) และการออกแบบวงจรขั้นสูง พร้อมทั้งประยุกต์ใช้เซมิคอนดักเตอร์กำลังรุ่นที่สาม เพื่อให้ไม่เพียงแค่ผ่านข้อกำหนดที่เข้มงวดของการรับรอง 80 PLUS Ruby เท่านั้น แต่ยังสามารถเพิ่มความหนาแน่นของพลังงานได้ถึง 59% ที่ 51 วัตต์ต่อลูกบาศก์นิ้วอีกด้วย...

08 พ.ค. 2568

The CEO of one of Thailand’s leading manufacturers says his customers are rushing to stock up during Trump’s tariff pause

Fortune

Thailand, along with the rest of Southeast Asia, got some temporary relief when U.S. President Donald Trump chose to delay his “Liberation Day” tariffs by 90 days. Now, the country’s U.S.-bound exports only have a 10% tariff, as opposed to the 36% threatened by Trump.

Asian markets have gone on a wild ride since Trump first unveiled his reciprocal tariffs on April 2, falling and rising according to the president’s statements. Thailand’s benchmark SET index fell by 9% between April 2 and April 9, only to rally after Trump announced his tariff pause. Still, the index has yet to recover from the Liberation Day hit.

“Reciprocal tariffs, we thought, were excessively high,” said Victor Cheng, the CEO of Delta Electronics Thailand, last week before Trump announced his tariff pause. U.S. actions were causing “anxiety and great concern,” Cheng said, but noted that customers had yet to change or cancel any orders as a result of the tariffs and were instead adopting a wait-and-see attitude. Cheng added later, after Trump paused his tariffs, that customers are using the 90-day pause on reciprocal tariffs to “stock up.”

The CEO also explained why his U.S. customers, and not his company, “will have to bear the extra tariff on top of the original selling price.” He points out that most of Delta Electronics Thailand’s products are classed as “free on board,” which means responsibility passes from the seller—his company—to the buyer—the U.S. customer...

07 เม.ย. 2568

"ดีพร้อม" จับมือเดลต้า คิกออฟ ดีพร้อม x เดลต้า เองเจิล ฟันด์ คอนเน็ค ปีที่ 10 ดึง 2 พันธมิตร ชู Content Marketing

Siamrath

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ผนึกกำลัง บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท มีเดียแท็งค์ จำกัด และสมาคมการค้าอินฟลูเอนเซอร์ไทย เดินหน้าสร้างโอกาสแก่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้เติบโตผ่านโครงการ ดีพร้อม x เดลต้า เองเจิล ฟันด์ คอนเน็ค ปีที่ 10 ขยายผลต่อยอดกลยุทธ์การตลาดผ่านการสร้างเนื้อหา หรือ Content Marketing ปั้นเทรนด์การเสพคอนเทนต์ด้านนวัตกรรม เพิ่มโอกาสด้านการตลาด ขยายฐานลูกค้า และผลักดันผู้ประกอบการสตาร์ทอัพไปสู่ระยะเติบโต คาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางการตลาดได้กว่า 50 ล้านบาท พร้อมเชื่อมโยงสตาร์ทอัพไปยังแหล่งเงินทุนให้เปล่าของบริษัท เดลต้าฯ จำนวน 5 ล้านบาท ต่อไป

นายวิคเตอร์ เจิ้ง ประธานกรรมการบริหารบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเดลต้าฯ ร่วมกับดีพร้อมในการดำเนินธุรกิจเชิง CSR โดยการคืนกลับสู่สังคมในรูปแบบการสนับสนุนทุนเพื่อพัฒนาต่อยอดให้กับสตาร์ทอัพไทยผ่านโครงการ Angel Fund นับตั้งแต่เปิดตัวโครงการในปี 2559 ได้มีการเสริมศักยภาพให้กับสตาร์ทอัพกว่า 200 ราย เป็นเงินทุนมากกว่า 33.16 ล้านบาท และช่วยสร้างงาน 927 ตำแหน่ง ซึ่งโครงการดังกล่าวมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการนำนวัตกรรมต่าง ๆ เข้าสู่ตลาดเชิงพานิชย์ได้อย่างชัดเจน สำหรับปีนี้ ทางบริษัทฯ ทุ่มเงินจำนวน 5 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการสนับสนุนเงินให้เปล่าแก่สตาร์อัพที่มีธุรกิจและผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรม จำนวน 4 ล้านบาท และสนับสนุนผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ จำนวน 1 ล้านบาท ให้สามารถต่อยอดการเริ่มต้นธุรกิจได้ และในฐานะผู้ให้การสนับสนุนด้านเงินทุนกับสตาร์ทอัพ คิดว่าโจทย์ใหญ่ของสตาร์ทอัพไทยในปีนี้ คือ การเร่งคิดค้นนวัตกรรมหรือเทคโนโลยี เพื่อแก้ไขปัญหาของโลกในบริบทต่าง ๆ อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง หรือ Climate change ซึ่งมีผลกระทบต่อพวกเราทุกคนหรือจากสถานการณ์ปัจจุบันที่พวกเราต้องการสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ เพื่อให้คุณภาพชีวิตของพวกเราดีขึ้น...

04 มี.ค. 2568