เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ เปิดตัวโซลูชันดิจิทัลทวินสุดล้ำในงาน SEMICON Southeast Asia 2025 เพื่อเร่งขับเคลื่อนการผลิตอัจฉริยะ

สิงคโปร์, 20 พฤษภาคม 2568 — เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ผู้นำระดับโลกด้านการจัดการพลังงานและโซลูชันสมาร์ทกรีน จัดแสดงโซลูชันดิจิตัลทวินสุดล้ำในงาน SEMICON Southeast Asia 2025 โดยไฮไลต์ของงานเน้นระบบการผลิตอัจฉริยะยุคใหม่ที่รองรับอุตสาหกรรมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในหลากหลายรูปแบบ

โซลูชันดิจิตัลทวินของเดลต้า ประกอบด้วย DIATwin แพลตฟอร์มเครื่องจักรเสมือน ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และลดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิผล ผ่านการจำลอง ทดสอบ และเตรียมความพร้อมของเครื่องจักรในสภาพแวดล้อมเสมือนก่อนใช้งานจริง

นายจิมมี่ วาน ผู้จัดการประจำประเทศสิงคโปร์และมาเลเซียของเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า “ระบบการผลิตอัจฉริยะในอนาคตจะขับเคลื่อนอย่างชาญฉลาด เชื่อมต่อกัน และอย่างยั่งยืน” เขายังกล่าวต่อว่า “อุตสาหกรรมต่างๆ เร่งเข้าสู่ยุคดิจิทัลและพลังงานไฟฟ้า เจ้าของโรงงานจำเป็นต้องทบทวนแนวทางการออกแบบ ผลิต และปรับปรุงการดำเนินงานในระดับที่กว้างขึ้น ด้วยการบูรณาการโซลูชันระบบอัตโนมัติอุตสาหกรรมขั้นสูงและโซลูชันประหยัดพลังงานของเดลต้า ร่วมกับข้อมูลเชิงลึกจากการวิเคราะห์ข้อมูล ทำให้ลูกค้าสามารถเพิ่มความคล่องตัว ความยืดหยุ่น และความสามารถในการแข่งขัน เพื่อเติบโตอย่างยั่งยืนในภูมิทัศน์อุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว”

ภายใต้ธีม “ยกระดับความแม่นยำด้วยดิจิตัลทวินและโซลูชันการผลิตอัจฉริยะ” เดลต้าจัดแสดงเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรม ศูนย์ข้อมูล และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานขั้นสูง ที่ช่วยเสริมความแม่นยำในการผลิต การเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต และความน่าเชื่อถือในการดำเนินงาน

เสริมศักยภาพการผลิตเซมิคอนดักเตอร์อัจฉริยะด้วยดิจิตัล ทวิน

อุตสาหกรรมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ความแม่นยำและประสิทธิภาพ คือ หัวใจสำคัญ อย่างไรก็ตาม กระบวนการตั้งค่าเครื่องจักรแบบดั้งเดิมต้องใช้การปรับค่าหลายรอบ ซึ่งเสียเวลาและต้นทุน เดลต้าได้นำเสนอโซลูชันดิจิตัลทวิน พัฒนาแพลตฟอร์มเครื่องจักรเสมือน ที่ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถจำลอง ทดสอบ และเตรียมความพร้อมของเครื่องจักรในโลกเสมือนจริงก่อนใช้งานจริง

ตัวอย่างเช่น ทีมงานฝ่ายผลิตสามารถจำลองและปรับแต่งค่าพารามิเตอร์ในการจัดการ wafer ภายในสภาพแวดล้อมการจำลองที่มีความแม่นยำสูง ช่วยลดเวลาหยุดทำงานของเครื่องจักร เพิ่มความแม่นยำก่อนนำไปปรับใช้กับอุปกรณ์จริง การผสานโลกไซเบอร์และอุปกรณ์จริงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนา ปรับแต่งค่าพารามิเตอร์เชิงคาดการณ์ และเร่งกระบวนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ส่งผลให้ได้ผลลัพธ์ที่มีความแม่นยำสูง มีความน่าเชื่อถือ และสอดคล้องกับมาตรฐานอุตสาหกรรมในระดับสูงสุด

โซลูชันไฮไลต์ภายในงาน

ภายในงาน เดลต้าได้นำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยจากบริษัทในเครือสัญชาติสหรัฐอเมริกา Universal Instruments โซลูชันเครื่องป้อนความเร็วสูง (HSWF) ที่สามารถผสานการทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม FuzionSC™ ได้อย่างไร้รอยต่อ เพื่อมอบโซลูชันแพ็คเก็จจิ้งขั้นสูง (multi-die advanced packaging) ที่ครอบคลุมที่สุดในอุตสาหกรรม แพลตฟอร์มนี้รองรับอุปกรณ์ป้อนวัสดุหลากหลายชนิด และสามารถวางชิ้นส่วนแอคทีฟและพาสซีฟที่มีความแม่นยำสูงลงบนวัสดุตั้งต้นได้หลากหลายชนิด

เมื่อจับคู่กับ HSWF ระบบนี้ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถจัดการแผ่นเวเฟอร์หลายชนิดพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการประกอบเซมิคอนดักเตอร์ความหนาแน่นสูง อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบขยายแผ่นเวเฟอร์ ระบบโหลด / ไม่โหลดเวเฟอร์อัตโนมัติ เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับแอปพลิเคชันขั้นสูงด้านแพ็คเกจจิ้งหลายชิป การผสานเทคโนโลยีขั้นสูงของ Universal Instruments เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านระบบอัตโนมัติและดิจิทัลของเดลต้า ช่วยให้ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้มากถึง 20–25% พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการความร้อนและอัตราการผลิตชิ้นงานสำเร็จ (yield rate) ช่วยเร่งเวลาในการออกสู่ตลาดของอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์รุ่นใหม่

โซลูชันระบบอัตโนมัติขั้นสูงของเดลต้ายังรวมถึงระบบควบคุมคุณภาพด้วย AI และเทคโนโลยีการหยิบและวางชิ้นส่วน (die pick-and-place) ความแม่นยำสูงสำหรับการประกอบเซมิคอนดักเตอร์ อีกทั้งยังมีการจัดแสดงระบบบริหารจัดการโรงงานแบบครบวงจร โดยใช้แพลตฟอร์ม VTScada ที่สามารถตรวจสอบข้อมูลแบบเรียลไทม์ ผสานการทำงานของอุปกรณ์ได้อย่างไร้รอยต่อ และมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย สามารถปรับแต่งได้สูง รองรับการควบคุมและมอนิเตอร์ระบบอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร โซลูชันระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) ของเดลต้า ยังรวมเอาแบตเตอรี่ LFP ระบบปรับพลังงานไฟฟ้า (power conditioning systems) และระบบจัดการพลังงาน DeltaGrid® มาไว้ในระบบเดียว เพื่อควบคุมการใช้พลังงานแบบศูนย์รวม เพิ่มความยืดหยุ่นของระบบ พร้อมลดต้นทุนด้านพลังงานด้วยฟังก์ชันการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในช่วงที่มีการใช้งานสูงสุด การย้ายการใช้พลังงานจากช่วงที่มีความต้องการไฟฟ้าสูงไปยังช่วงที่มีความต้องการต่ำและการจ่ายไฟสำรอง

เดลต้ายังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์อัจฉริยะและยั่งยืน เพื่อช่วยเจ้าของโรงงานเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตควบคู่ไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยสอดคล้องกับธีมหลักของงานที่เน้นความยั่งยืน เดลต้าจะเดินหน้าผลักดันเป้าหมาย ESG ระดับโลกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 การส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน และการพัฒนาโซลูชันประหยัดพลังงานในเมืองอัจฉริยะ พลังงานหมุนเวียน และอาคารเขียว

SEMICON Southeast Asia 2025 จัดขึ้นที่ศูนย์งานแสดงสินค้า Sands Expo and Convention Centre ประเทศสิงคโปร์ ถึงวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 เยี่ยมชมบูธเดลต้าได้ที่ B2009, เอ็กซ์โปฮอลล์  E (B2) มาร่วมสัมผัสนวัตกรรมที่กำลังเปลี่ยนอนาคตของอุตสาหกรรม ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://www.delta-singapore.com/en-SG/landingpage/semicon-sea-2025