เดลต้า ประเทศไทย ติดอันดับ Clean200 สะท้อนความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย — 17 มีนาคม 2568 – บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำระดับโลกด้านการจัดการพลังงานและโซลูชันอัจฉริยะสีเขียวบนพื้นฐาน IoT ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน Clean200 ซึ่งเป็นการจัดอันดับระดับโลกของบริษัทที่เป็นผู้นำด้านธุรกิจที่ยั่งยืนและสร้างรายได้จากพลังงานสะอาด โดยเดลต้า เป็นบริษัทไทยเพียงแห่งเดียว ที่ได้รับเกียรติให้ติดอยู่ในรายชื่ออันทรงเกียรตินี้ โดยอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน นวัตกรรม และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

“การเป็นบริษัทไทยเพียงแห่งเดียวในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศของ Clean200 ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนานวัตกรรมอย่างยั่งยืน รางวัลนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความพยายามของเราในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขยายการใช้พลังงานหมุนเวียน และพัฒนาโซลูชันที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงาน ขณะที่เรามุ่งสู่การใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 100% และเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ เราจะยังคงมุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมและชุมชน” นาย เคเค ชง หัวหน้าฝ่ายพัฒนาความยั่งยืน บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าว

Clean200 จัดทำโดย Corporate Knights และ As You Sow โดยเป็นการจัดอันดับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่สร้างรายได้อย่างมีนัยสำคัญจากแหล่งพลังงานที่ยั่งยืน รวมถึงพลังงานสะอาด การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และแนวทางการดำเนินธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม การที่เดลต้าได้รับการจัดอันดับในครั้งนี้สะท้อนถึงความเป็นผู้นำของบริษัทในด้านเทคโนโลยีสีเขียว การลดคาร์บอน และโซลูชันพลังงานอัจฉริยะ

ขับเคลื่อนความยั่งยืนผ่านนวัตกรรม

เดลต้ามุ่งมั่นผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำผ่านการใช้พลังงานหมุนเวียน การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการผลิตอย่างยั่งยืน ในฐานะสมาชิกของ RE100 ตั้งแต่ปี 2564 บริษัทได้ให้คำมั่นที่จะใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 100% สำหรับการดำเนินงานทั่วโลก และมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมาย การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Emissions) เดลต้าตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 1 และ Scope 2 ลง 90% และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 3 ลง 25% ภายในปี 2573 พร้อมตั้งเป้าหมายระยะยาวในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ภายในปี 2593

โซลูชันด้านพลังงานอัจฉริยะและการจัดการพลังงานของเดลต้าช่วยให้ภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจเชิงพาณิชย์ และดาต้า เซ็นเตอร์ สามารถลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยคาร์บอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แหล่งจ่ายไฟประสิทธิภาพสูงและระบบบริหารจัดการความร้อนของเดลต้าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ขณะที่ ระบบสำรองไฟฟ้า (UPS) ช่วยให้การจ่ายพลังงานมีความเสถียรและป้องกันการสูญเสียพลังงาน สำหรับดาต้า เซ็นเตอร์ เดลต้านำเสนอ ระบบพลังงานแบบโมดูลาร์ และ โซลูชันระบายความร้อนแบบแม่นยำ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดต้นทุนการดำเนินงาน และสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่ยั่งยืนมากขึ้น

เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด เดลต้านำเสนอ อินเวอร์เตอร์พลังงานแสงอาทิตย์ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแปลงพลังงาน และ ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (BESS) ที่ช่วยรักษาเสถียรภาพของโครงข่ายไฟฟ้าและเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงาน นอกจากนวัตกรรมเหล่านี้แล้ว เดลต้ายังได้ติดตั้ง ระบบโซลาร์รูฟท็อปกว่า 7 เมกะวัตต์ ภายในโรงงานและอาคารของบริษัท ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพของโซลูชันพลังงานหมุนเวียนของเดลต้าในการลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล

โรงงานเดลต้า ที่บางปู เป็นต้นแบบของการผลิตอย่างยั่งยืน โดยผสาน ระบบอัตโนมัติ IoT การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานด้วย AI และ เทคโนโลยีระบายความร้อนประสิทธิภาพสูง เพื่อลดของเสียและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ความก้าวหน้าเหล่านี้ช่วยให้เดลต้าสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมเสริมสร้างความยั่งยืนในการดำเนินงาน และกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับแนวทางอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ

ในฐานะผู้นำด้านระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของประเทศไทย เดลต้าไม่ได้เป็นเพียงผู้ติดตั้งสถานีชาร์จ EV เท่านั้น แต่ยังออกแบบและผลิต เครื่องชาร์จอัจฉริยะ AC และ DC แบบชาร์จเร็ว ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จและการบูรณาการกับโครงข่ายไฟฟ้า

นอกจากนี้ เดลต้ายังจัดหา ระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (Powertrain Systems) และ โซลูชันการจัดการแบตเตอรี่ (Battery Management Solutions) ให้กับผู้ผลิตยานยนต์ เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่การขนส่งที่สะอาดขึ้นและลดการปล่อยก๊าซจากยานพาหนะ

ในด้าน ระบบอัตโนมัติอุตสาหกรรม และ สมาร์ทซิตี้ เดลต้าพัฒนา ระบบบริหารจัดการอาคาร (Building Management Systems) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ขณะที่ โซลูชัน HVAC ช่วยลดการใช้ไฟฟ้า และ หุ่นยนต์อัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในโรงงาน เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ยังมีส่วนสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำและโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น

มุ่งมั่นสู่อนาคตที่ยั่งยืน

การได้รับการจัดอันดับใน Clean200 ตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำของเดลต้าในด้าน สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยีสะอาดและโซลูชันประหยัดพลังงาน เดลต้ากำลังก้าวสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ พร้อมยึดมั่นในพันธกิจของบริษัท “มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมการใช้พลังงานสะอาดและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพื่ออนาคตที่ดีกว่า”